ในคดีนี้ ผู้เสียหายถูกหลอกลวงผ่านการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานธนาคารและตำรวจ โดยกลุ่มคนร้ายได้โทรมาหาผู้เสียหายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างว่ามีการใช้ชื่อผู้เสียหายเปิดบัตรเครดิตปลอม ซึ่งต้องมีการแจ้งความผ่านช่องทางโทรศัพท์ คนร้ายทำการโอนสายไปยังบุคคลที่แอบอ้างเป็นตำรวจ และแอดไลน์เพื่อพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมทั้งทำการเปิดวิดีโอคอลสั้น ๆ ให้เห็นว่าตนเองเป็นตำรวจจริง คนร้ายแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินและส่งหมายจับปลอมมาให้ดู รวมถึงส่งภาพบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของผู้เสียหาย โดยหลอกให้ผู้เสียหายแสดงรายการทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
หลังจากนั้น กลุ่มคนร้ายจึงหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินและทรัพย์สินผ่านบัญชีธนาคารที่คนร้ายแจ้งมา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อทำการตรวจสอบทรัพย์สิน ผู้เสียหายได้โอนเงินเป็นจำนวนหลายครั้ง โดยมีรายละเอียดของการโอนเงินแบ่งเป็นช่วงเวลาและมูลค่าต่าง ๆ รวมทั้งการนำทองรูปพรรณไปจำนำเพื่อหาเงินมาโอนเพิ่มเติม ผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายกดดันให้ทำการขายที่ดินและยืมเงินเพื่อโอนเข้าบัญชีที่อ้างว่าเป็นของทางการ แต่เมื่อผู้เสียหายทราบความจริงจากบุตรชายว่าตนเองถูกหลอก จึงเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ
จากการสอบถามเพิ่มเติม ผู้เสียหายไม่ได้สงสัยบุคคลใดเป็นคนร้ายในขณะเกิดเหตุ และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านของผู้เสียหายในจังหวัดปทุมธานี พร้อมทั้งไม่มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไปแล้ว