ผู้เสียหายได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัท ห้างเพชรทองธาดาโกลด์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยบริษัทฯ และตัวแทนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันใช้เอกสารราชการและเอกสารสิทธิปลอม และหลอกลวงผู้อื่นด้วยการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายและประชาชนอื่นๆ ผู้เสียหายได้ชี้แจงว่าตนเป็นผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำดังกล่าว และขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 โดยผู้เสียหายได้พบการไลฟ์สดในแอปพลิเคชั่น TikTok บัญชีชื่อ “Thadagold” ที่ทำการไลฟ์สดขายทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณเป็นประจำทุกวัน วันละ 2-3 รอบ โดยมีผู้ติดตามและเข้าชมการไลฟ์จำนวนมาก ผู้ขายได้แสดงทองคำที่นำมาประมูล รวมถึงรีวิวจากลูกค้าที่ได้ซื้อสินค้าและได้รับสินค้าจริง สร้างความน่าเชื่อถือและความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้เสียหายซึ่งติดตามการไลฟ์สดนี้มาเป็นระยะเวลา 2-3 เดือนและมีความเชื่อถือในสินค้าที่ถูกแสดงในไลฟ์ดังกล่าว
ในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ผู้เสียหายได้เริ่มติดต่อกับผู้ขายผ่านการเข้าร่วมการประมูลสินค้าทองคำในไลฟ์สดบน TikTok และสั่งซื้อทองคำครั้งแรกผ่านบัญชีธนาคารที่ผู้ขายแจ้งคือบัญชีธนาคารกสิกรไทยชื่อ “บจก. ห้างเพชรทองธาดาโกลด์” เลขที่บัญชี 151-311-2331 หลังการประมูลเสร็จสิ้น ผู้ขายได้สื่อสารกับผู้เสียหายต่อผ่านแอปพลิเคชัน LINE บัญชีชื่อ “ห้างเพชรทองธาดาโกลด์” ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่ใช้ในการยืนยันคำสั่งซื้อและจัดส่งรายละเอียดเกี่ยวกับการโอนเงิน ผู้ขายได้แจ้งรายละเอียดการโอนและยืนยันที่อยู่เพื่อการจัดส่งสินค้า หลังการโอนเงิน ผู้เสียหายได้รับสินค้าตามปกติ ส่งผลให้ผู้เสียหายมีความมั่นใจและสนใจสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขายอีกในภายหลัง
ด้วยความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายจึงได้สั่งซื้อทองคำเพิ่มเติมในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 โดยมีการโอนเงินทั้งหมด 3 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,499 บาท โดยแบ่งเป็น :
- การโอนครั้งที่ 1: วันที่ 16 มิถุนายน 2567 โอนเงินจำนวน 5,000 บาทจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 334-2432830 ชื่อบัญชี น.ส. ศิริประภา เสนามาตย์ เพื่อซื้อทองคำหนัก 1 สลึง
- การโอนครั้งที่ 2: วันที่ 16 มิถุนายน 2567 โอนเงินจำนวน 9,999 บาทไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 151-311-2331 เพื่อซื้อทองคำหนัก 2 สลึง
- การโอนครั้งที่ 3: วันที่ 18 มิถุนายน 2567 โอนเงินจำนวน 5,500 บาทไปยังบัญชีเดิมเพื่อซื้อทองคำหนัก 2 สลึง
หลังจากผู้เสียหายได้โอนเงินครบถ้วนตามที่ตกลง ผู้ขายกลับเริ่มผัดผ่อนการจัดส่งสินค้า โดยให้เหตุผลว่าโรงงานยังไม่สามารถจัดส่งของได้ ผู้เสียหายได้ทวงถามเรื่องการส่งสินค้าหลายครั้ง แต่ได้รับคำตอบแบบเดียวกันเรื่อยมา ผู้ขายไม่ได้จัดส่งทองคำตามกำหนด ทั้งนี้เมื่อผู้เสียหายพบว่าไม่มีการจัดส่งสินค้าเกิดขึ้นจริง ผู้เสียหายเริ่มสงสัยว่าตนเองถูกหลอกลวง จนกระทั่งมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ซื้อสินค้าจากบัญชีเดียวกันนี้ ทักเข้ามาในไลฟ์สดเพื่อทวงถามสินค้าเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้เสียหายเกิดความมั่นใจในความผิดปกติของการซื้อขายครั้งนี้
เมื่อทราบถึงพฤติการณ์การฉ้อโกงดังกล่าว ผู้เสียหายได้รวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาคล้ายกันเพื่อมาแจ้งความและร้องทุกข์ร่วมกัน โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวนี้มีเจตนาในการหลอกลวงประชาชนเป็นจำนวนมากผ่านการใช้บัญชีปลอมและนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นจริง
ผู้เสียหายจึงขอให้พนักงานสอบสวนช่วยดำเนินคดีกับบริษัทห้างเพชรทองธาดาโกลด์ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ใช้เอกสารราชการและเอกสารสิทธิปลอม นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อหลอกลวงให้เกิดความเสียหายแก่ตนและผู้เสียหายรายอื่น ๆ ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อติดตามเงินที่สูญเสียกลับคืน