ระวัง! ภัยเงียบจากการลงทุนออนไลน์ที่มาพร้อมกับคำสัญญาและผลตอบแทนสูง

ผู้กล่าวหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยผู้กล่าวหาได้ระบุถึงการตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงผ่านการชักชวนลงทุนในลักษณะที่ดูเหมือนจริง โดยบุคคลที่ติดต่อมานั้นอ้างว่ารู้จักผู้กล่าวหาจากห้องประชุม และเริ่มชวนพูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนในแพลตฟอร์ม ซึ่งอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง โดยกล่าวถึงประสบการณ์การลงทุนของตนเองและคนรู้จักในลักษณะที่น่าเชื่อถือและได้ผลกำไรดี ผู้กล่าวหาจึงเกิดความเชื่อมั่นในคำแนะนำของบุคคลดังกล่าว

การลงทุนเริ่มต้นจากการโอนเงินครั้งแรกในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินเข้าบัญชีที่อีกฝ่ายแจ้งผ่านธนาคารต่าง ๆ ต่อมาได้โอนเพิ่มตามคำแนะนำรวมเป็น 15 รายการ รวมมูลค่า 2,618,670 บาท อีกฝ่ายอ้างว่าการโอนแต่ละครั้งเป็นการเพิ่มยอดการลงทุนหรือชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รวมถึงค่าภาษีและค่าครูจากกำไรที่คาดว่าจะได้รับ มีการแนะนำบุคคลที่อ้างว่าเป็นครูผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอนการดูกราฟและการซื้อขายเงินตราผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยครูนี้จะเป็นผู้บอกคำแนะนำและให้ผู้กล่าวหาทำตามคำสั่ง ทั้งนี้บุคคลดังกล่าวยังใช้ชื่อจริงในเอกสารการโอนเงินบางรายการที่ไม่ตรงกับชื่อที่ใช้ในการติดต่อใน LINE และ Facebook ของตนเอง ผู้กล่าวหาได้ตั้งข้อสงสัยในภายหลังและตรวจสอบพบชื่อจริงที่ปรากฏในสลิปการโอนซึ่งเชื่อมโยงกับกิจกรรมอื่น ๆ บน Facebook ของอีกฝ่าย

ผู้กล่าวหาทำการโอนเงินไปตามคำแนะนำต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 หลังจากโอนเงินครบแล้ว อีกฝ่ายได้แจ้งว่าจะทำการถอนเงินจากการลงทุนให้ แต่กลับไม่ตอบกลับข้อความของผู้กล่าวหาอีกเลย ทำให้ผู้กล่าวหาเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงตัดสินใจแจ้งความเพื่อดำเนินคดี

เมื่อสอบถามเพิ่มเติม ผู้กล่าวหายืนยันว่าไม่มีผู้ต้องสงสัยในคดีนี้มาก่อนและไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ใด ทั้งนี้ ผู้กล่าวหาได้ให้ข้อมูลและพยานหลักฐานในการโอนเงินแก่พนักงานสอบสวนแล้ว โดยระบุว่าตนไม่อ้างพยานบุคคลหรือพยานหลักฐานเพิ่มเติมอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ได้แจ้ง