การหลอกลวงผ่านการขายสินค้าแบบผ่อนจ่าย บนแอปพลิเคชัน Instagram

ผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ชลรดา สีสด และพวก ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน โดยการหลอกลวงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ขณะที่ผู้เสียหาย เล่นแอปพลิเคชั่น Instagram (IG) ได้เห็นโพส ของผู้ใช้บัญชีรายหนึ่ง ใช้ชื่อว่า nutji.phone เป็นร้านค้าขายโทรศัพท์มือถือออนไลน์ โดยสามารถผ่อนชำระค่าเครื่องโทรศัพท์ได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนในครั้งเดียว ผู้เสียหายรู้สึกสนใจสินค้าที่ทางร้านได้โฆษณา ประกอบกับบัญชีของทางร้านมียอดผู้ติดตามที่สูงและมีการลงรีวิวสินค้า ว่าลูกค้าได้รับสินค้าจริงอยู่ตลอด ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ จึงได้ติดต่อร้านผ่านแอปพลิเคชัน Line

โดยได้แอดไลน์ผ่านลิ้งค์หน้าโปรไฟล์ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่อนชำระโทรศัพท์ เมื่อแอดไลน์ไป ทางร้านได้ให้รายละเอียดว่า จะต้องผ่อนชำระจนครบจำนวน จึงจะส่งเครื่องให้ โดยเป็นการผ่อนที่ไม่ได้กำหนดจำนวนเงิน ในแต่ละครั้งสามารถผ่อนชำระเข้าไปจำนวนเท่าใดก็ได้และไม่ได้มีกำหนดระยะเวลา โดยผู้เสียหายได้สนใจซื้อ iPad Air 5 ซึ่งต้องชำระเงินจำนวน 30,320 บาท โดยมีการวางเงินดาวน์ 5,000 บาท ตามด้วยเงินดาวน์เพิ่มอีก 990 บาท รวมเป็นเงิน 5,990 บาท

ผู้เสียหายได้ทำการโอนเงินให้กับน.ส.ชลรดา สีสด หลายครั้ง โดยมีรายละเอียดการโอนเงินทั้งหมด 36 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 รวมเป็นจำนวนเงินที่โอน 32,940 บาท ซึ่งได้มีการบันทึกวันที่และจำนวนเงินที่โอนอย่างละเอียด หลังจากที่ผู้เสียหาย ผ่อนชำระครบตามยอดที่ตกลง ทางร้านได้มีการนัดส่งสินค้าให้ผู้เสียหาย โดยมีการนัดกันหลายครั้งแต่ทางร้านได้มีการบ่ายเบี่ยงไม่ส่งสินค้า โดยมีข้ออ้างต่างๆ ทำให้ผู้เสียหายเริ่มรู้สึกว่าทางร้านไม่มีสินค้าจริง จึงพยายามติดต่อร้านอีกหลายครั้ง ซึ่งทางร้านแจ้งว่ากำลังมีปัญหาทางการเงินทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้

ผู้เสียหายพยายามติดต่อทางร้านอีกครั้งและทางร้านเสนอว่าจะรอของหรือจะให้โอนยอดคืนแทนการส่งสินค้า ผู้เสียหายจึงเลือกให้ทางร้านโอนยอดคืน ซึ่งทางร้านก็อ้างว่าถูกลูกค้าคนอื่นแจ้งความจนถูกอายัดบัญชีเนื่องจากไม่ส่งสินค้าให้ลูกค้าหลายราย ทำให้การทยอยโอนคืนนั้นล่าช้า เนื่องจากเงินอยู่ในบัญชีดังกล่าว หลังจากนั้นผู้เสียหายได้รับข้อมูลจากลูกค้าคนอื่นที่เป็นสมาชิกในกลุ่มไลน์ ว่ามีกลุ่มผู้เสียหายจากร้านนี้เป็นจำนวนมากซึ่งมียอดความเสียหายรวมทั้งสิ้นหลักแสนถึงหลักล้านบาท

ผู้เสียหายจึงทักไปคุยกับทางร้านอีกครั้งและทางร้านได้ตกลงทยอยคืนเงินบางส่วน ซึ่งจำนวนเงินที่ผู้เสียหายได้รับการคืนจำนวน 2,720 บาท หลังจากนั้นทางร้านขาดการทยอยโอนเงินคืนให้ผู้เสียหายเป็นเวลา 2 เดือน ผู้เสียหายจึงพยายามติดต่อทางร้านอีกครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าทางร้านน่าจะไม่ทยอยโอนเงินคืนแล้ว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

การกระทำของ น.ส.ชลรดา และพวกถือเป็นการฉ้อโกงที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปในจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ควรได้รับการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีกในอนาคต.