จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้ ผู้เสียหายได้พบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและหลอกลวงโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกหลอกลวงให้ลงทุนกับเว็บไซต์ www.demcoproject.com ผ่านแผนประทุษกรรมของกลุ่มบุคคลที่ใช้วิธีการชักชวนทางแอปพลิเคชัน Tinder โดยเริ่มจากการทำความรู้จักกันแบบฉันท์คนรัก แต่เบื้องหลังมีเจตนาแฝงในการหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อการลงทุนในลักษณะฉ้อโกง
ผู้เสียหายรายนี้เริ่มต้นพบกับผู้ใช้บัญชี Tinder ชื่อว่า “Tharm” เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 และได้สานสัมพันธ์โดยเปลี่ยนมาพูดคุยกันทางแอปพลิเคชัน Line ต่อมาในช่วงหนึ่งสัปดาห์แรก ผู้ใช้บัญชีชื่อ Tharm ได้เริ่มแนะนำให้ผู้เสียหายสนใจเกี่ยวกับการลงทุน โดยกล่าวถึงสิทธิพิเศษที่ตนมีซึ่งสามารถเปิดบัญชีลงทุนกับเว็บไซต์ www.demcoproject.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่อ้างว่าสามารถทำกำไรได้สูง หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงเริ่มสนใจและขอให้ผู้ใช้บัญชี Line ชื่อ Tharm ช่วยสมัครเปิดบัญชีให้
เมื่อบัญชีลงทุนได้รับการเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้บัญชี Tharm ได้ส่งลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์และข้อมูล Username, Password ให้กับผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายเริ่มการลงทุน โดย Tharm อ้างว่าจะช่วยเติมเงินให้ผู้เสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าตัวหากทำการฝากเงินเข้าไป ซึ่งจากการทดลองฝากเงินในครั้งแรกด้วยจำนวนเงิน 2,000 บาท ผู้เสียหายพบว่าได้รับเครดิตในระบบสูงขึ้นเป็น 4,000 บาททันที ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อถือและไว้วางใจ
หลังจากนั้น Tharm ได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยอ้างว่าสามารถทำกำไรได้มากขึ้น ซึ่งผู้เสียหายได้ดำเนินการโอนเงินเพิ่มในหลายครั้งรวมถึงในจำนวนที่สูงมาก โดยการโอนเงินเหล่านี้กระทำผ่านบัญชีธนาคารที่ต่าง ๆ ซึ่งมีชื่อเจ้าของบัญชีแตกต่างกันออกไป เช่น นายอนันต์ พุทธเสน, นายสุพล พรหมดี, นางสาวฤทัยรัตน์ พวงร้อย ฯลฯ โดยผู้เสียหายได้ติดตามดูยอดเงินในบัญชีลงทุนผ่านเว็บไซต์และพบว่ายอดเงินที่ลงทุนไปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถถอนเงินออกมาบางส่วนได้ในครั้งแรก ๆ ซึ่งทำให้เกิดความมั่นใจในระบบมากขึ้น
เมื่อความเชื่อมั่นในระบบการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ผู้เสียหายจึงทำการลงทุนเพิ่มเติมตามคำแนะนำของ Tharm และใช้เงินที่ได้รับจากการกู้ยืมกับสินเชื่อต่าง ๆ เช่น จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง เพื่อเพิ่มยอดลงทุนรวมกว่า 600,000 บาท รวมทั้งเงินที่เหลือจากบัญชีของผู้เสียหายเองก็ถูกนำมาลงทุนทั้งหมดด้วย
ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินที่มีกำไรเพิ่มขึ้นมา Tharm อ้างว่าผู้เสียหายละเมิดเงื่อนไขการลงทุน และหากไม่เพิ่มเงินลงทุนอีก 1.5 ล้านบาท ระบบจะทำการระงับบัญชี ซึ่งจะทำให้เงินลงทุนทั้งหมดสูญหายไป ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและต้องหาทางกู้ยืมเงินมาเพิ่มเติมจาก A Money และสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อมาลงทุนเพิ่มตามคำขอ
เมื่อเงินกู้จากสินเชื่อต่าง ๆ ได้รับการอนุมัติ ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินเพิ่มตามคำแนะนำจาก Tharm แต่ต่อมาถูกขอให้เพิ่มเงินลงทุนอีกราว 200,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายเริ่มสงสัยและปรึกษาครอบครัวเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และพบว่าเป็นลักษณะของการหลอกลวงแบบ Romance Scam ที่ใช้วิธีการชักชวนให้รักและชักจูงไปสู่การลงทุนจนสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก
เมื่อพบว่าตนถูกหลอกลวง ผู้เสียหายและครอบครัวได้รวบรวมหลักฐานการโอนเงินทั้งหมด รวมถึงหลักฐานจากการสนทนาและการชักชวนลงทุนเพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการร้องทุกข์กล่าวโทษแก่กลุ่มมิจฉาชีพ โดยมอบอำนาจให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมาย